โดยทั่วไปหลังจากเปิดแผลเวลาปัสสาวะมักจะเกิดอาการปัสสาวะกระจายไปทั่วๆหรือปัสสาวะหยดลงมาตามแคมใน , แคมนอก และต้นขา สาเหตุมักเกิดจากการที่มีเนื้อเยื่อรอบท่อปัสสาวะ และหน้าต่อท่อปัสสาวะบวม ทำให้ปิดทางออกของปัสสาวะและบังทางออกของปัสสาวะทำให้ปัสสาวะกระทบเนื้อเหล่านี้ แล้วไหลออกมาตามแคมใน,แคมนอกและต้นขา และปัสสาวะไม่เป็นเส้นปัญหาเหล่านี้ดีขึ้นได้เองใน 3 - 6 อาทิตย์ เมื่อแคมในและท่อปัสสาวะยุบบวมแล้ว

    ในหัวข้อนี้จะกล่าวถึงปัญหาเรื่องทิศทางการปัสสาวะโดยปกติหลังการผ่าตัดไปแล้วระยะหลังถ้านั่งยองๆ ปัสสาวะหรือนั่งชักโครกปัสสาวะ ปัสสาวะจะไหลตรงลงไปยังโถสุขภัณฑ์ได้เพราะทิศทางการปัสสาวะจะเปลี่ยนจากทิศทางที่ไปข้างหน้า ลงไปยังทิศทางด้านล่าง ซึ่งทำให้นั่งปัสสาวะได้เหมือนผู้หญิงแต่ในบางคนถ้าแพทย์เหลือท่อปัสสาวะให้ยาวกว่าปกติ อาจทำให้ทิศทางการปัสสาวะยังตรงไปด้านหน้า ทำให้เวลานั่งปัสสาวะตรงๆ ปัสสาวะจะพุ่งไป ด้านหน้าไม่ลงโถสุขภัณฑ์ ทำให้มีปัญหาในการดำรงชีวิตสังคม โดยเฉพาะการเข้าห้องน้ำสาธารณะ บางครั้ง อาจลืมตัวไม่ได้ก้มตัวขณะปัสสาวะทำให้ปัสสาวะพุ่งออกมานอกโถปัสสาวะเลอะพื้นห้องน้ำได้

    การแก้ไขปัญหาทำโดยการตัดแต่งท่อปัสสาวะเวลาย้ายทางเปิดของท่อปัสสาวะลงล่าง จนถึงตำแหน่งทางโค้งของท่อปัสสาวะก่อนที่จะโค้งไปด้านหน้า

     การผ่าตัดแปลงเพศจะมีการตัดต่อปัสสาวะออกมา เพื่อให้ตำแหน่งท่อปัสสาวะเป็นเหมือนในผู้หญิง การที่ท่อปัสสาวะสั้นลงทำให้มีโอกาสที่เชื้อแบคทีเรีย จะผ่านเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะได้ง่ายขึ้นประกอบกับการเปิดของท่อปัสสาวะ จะอยู่ในตำแหน่งที่ลึกและซับซ้อนมากกว่า เดิมทำให้ทำความสะอาดได้ยากขึ้นมีโอกาสที่จะมีการสะสมของสิ่งสกปรกและการหมักหมม บริเวณทางเปิดของท่อปัสสาวะได้มากจึงเกิดการติดเชื้อเข้าไปได้ง่าย

     การเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบต้องแยกจากการอุดตันที่ทางออกของท่อปัสสาวะเพราะจะมีอาการคล้ายกันคือจะมีอาการปวดเวลาปัสสาวะ การอุดตันที่ท่อปัสสาวะจะมีอาการปวดปัสสาวะมากแต่เวลาเบ่งจะไม่ปวด ถ้าปัสสาวะได้จะหายปวด แต่ถ้ากระเพาะปัสสาวะอักเสบจะปวดท้องน้อย ปัสสาวะบ่อยและปวดมากเวลาปัสสาวะแล้วจนปัสสาวะแล้วก็ยังมีอาการปวดและรู้สึกเหมือนปัสสาวะไม่สุด อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบอาจเกิดได้บ่อยแม้ว่าจะผ่าตัดไปนานแล้ว

     การรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำโดยใช้ยาฆ่าเชื้อเช่นกลุ่มที่ทำให้เกิดการอักเสบในกระเพาะปัสสาวะบ่อยๆและทานน้ำมากๆ โดย ทั่วๆ ไปอาการจะดีขึ้นใน 24 - 48 ชม. ถ้าได้รับยาฆ่าเชื้อที่ถูกต้อง

     การผ่าตัดแปลงเพศยังมีเทคนิคการผ่าตัดท่อปัสสาวะและการทำคลิตอริสที่แตกต่างกันโดยทั่วไปตำแหน่งท่อปัสสาวะส่วนปลายเป็นส่วนที่ไม่ได้ยึดติดเกิดกับกระดูกหรือกล้ามเนื้อก็จะขยับไปมาได้เล็กน้อยในระยะ 2 - 3 เดือนแรก ของการผ่าตัดตำแหน่งของท่อปัสสาวะจะอยู่ที่ตำแหน่งเดิมที่วางตำแหน่งของท่อปัสสาวะไว้ แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 6 เดือน ผิวหนังบริเวณหัวเหน่า มีความยืดหยุ่นและมีความตึงของเนื้อเยื่อมากขึ้นจากการเคลื่อนไหวของร่างกายทำให้มีการดึงส่วนของแคมในและผิวหนังเหนือคลิตอริส
ขึ้นไป จึงทำให้ท่อปัสสาวะเขยิบสูงขึ้นหรือบางครั้งอาจดึงผิวหนังที่อยู่ต่ำกว่าท่อปัสสาวะขึ้นมาบังรูเปิดของท่อปัสสาวะได้

     วิธีการแก้ไขทำโดยการย้ายรูเปิดของท่อปัสสาวะส่วนล่าง พร้อมทั้งอาจต้องตกแต่งแคมในและ
ผิวหนังใต้ คลิตอริสให้สวยงามในตำแหน่งใหม่

     การเกิดตอเป็นศัพท์ที่ใช้เรียกเป็นเนื้อเยื่อท่อปัสสาวะที่ยังคงเหลืออยู่และมีขนาดใหญ่มากขึ้น
เวลาก่อนและระหว่างการร่วม การเกิดตอไม่ได้เกิดขึ้นทั้งที่ในระยะแรก แต่จะเกิดขึ้นหลังจากผ่าตัดใช้แล้วประมาณ 4 - 6 เดือน แล้วจะมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ ตอหรือเนื้อเยื่อฟองน้ำเป็นเนื้อเยื่อที่ปกติอยู่รอบท่อปัสสาวะส่วนต้น มีหน้าที่เป็นตัวส่งแรงที่ส่งให้น้ำอสุจิให้พุ่งออกมาในผู้ชายดังนั้นเนื้อเยื่อเหล่านี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อมีอารมณ์ทางเพศเพราะมีเลือดไหลเวียนเข้าไปจำนวนมากจนเต็มที่

     ในระยะแรกหลังการผ่าตัดจะเกิดพังพืดรอบๆเนื้อเยื่อฟองน้ำเหล่านี้ทำให้ไม่สามารถขยายขนาดได้แต่เมื่อเวลาผ่านไป 4 - 6 เดือนพังพืดที่เกิดจากการผ่าตัดรอบๆ จะนิ่มลงทำให้ท่อขยายตัวได้มากขึ้น

     วิธีการแก้ไข ทำโดยการผ่าตัดออกถ้ามีขนาดใหญ่และมีปัญหาในการร่วมเพศ การผ่าตัดมักต้อง
ดมยาสลบ รายละเอียดสามารถอ่านได้ใน การผ่าตัดลดตอ

ในการผ่าตัดตำแหน่งที่มีเลือดออกมากๆ ได้แก่

1. ท่อปัสสาวะและเนื้อเยื่อฟองน้ำโดยรอบ
2. แคมใน
3. คลิตอริส
4. ผนังด้านหลังของกระเพาะปัสสาวะถ้ามีการผ่าตัดไปถูกผนังบางส่วน
5. ผนังของต่อมลูกหมาก
6. ผนังด้านข้างของช่องคลอด โดยทั่วไปด้านข้างของช่องคลอดในตำแหน่งใกล้กับกระเพาะปัสสาวะมักมีเส้นเลือดดำใหญ่ข้างล่าง 1 เส้น บางครั้งถ้าการผ่าตัดทำให้เส้นเลือดนี้ขาดกระทำให้เลือดออกมากๆ ได้

     การหยุดเลือดที่ออกจากอวัยวะเหล่านี้ได้แก่การใช้จี้ไฟฟ้า ,วัสดุหยุดเลือด การเย็บผนังหรือเส้นเลือดและการกดเพื่อหยุดเลือด เทคนิคหลักที่ใช้เพื่อหยุดเลือดคือการเย็บและการกดเนื้อหยุดเลือด เพราะ
ส่วนใหญ่การเสียเลือดไม่ได้เกิดจากการขาดของเส้นเลือดแดง

การที่มีเลือดออกผิดปกติมักเกิดได้ 3 ระยะ คือ

1. หลังผ่าตัดวันที่ 1 - 2 มักเกิดจากเลือดที่ออกจากแคมในและ คลิตอริสโดยทั่วไป ถ้าเลือดออกไม่มากใน 2 - 3 วัน ก็จะหยุดเองแต่ถ้าเลือดออกมาก อาจต้องปิดแผลเพิ่มหรือทำการเปิดแผลผ่าตัดเพื่อหยุดเลือดอย่างไรก็ตามโดยทั่วไปการกดด้วย พลาสเตอร์เหนียวมักได้ผลดี โอกาสที่จะผ่าตัดใหม่มีน้อยมาก
    
2. หลังการเปิดแผล ทันทีที่เปิดแผลจะมีการเอาวัสดุที่กดห้ามเลือดออกพร้อมเก็บเอาสายสวนปัสสาวะออก เลือดมักออกจากเนื้อเยื่อรอบท่อปัสสาวะการแก้ไขทำโดยการใช้ผ้าปิดแผลกดเพื่อหยุดเลือดไว้ประมาณ 5 - 10 นาทีเลือดมักหยุดได้เอง
    
3. หลังจากเริ่มขยายช่องคลอด ในปัจจุบันการขยายช่องคลอดจะเริ่มค่อนข้างเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้
   ช่องคลอดตื้น หลังการโมล์ ไป 2 อาทิตย์แรก จะมีเลือดออกมาแล้วหลังจากเอาแท่งโมล์ ออกทุกครั้งมักเป็นเลือดเก่าๆแต่อาจมีเลือดออกใหม่ได้ โดยทั่วไปเลือดที่ออกมักจะหยุดได้เองมักไม่มีปัญหาที่ต้องแก้ไข

    โดยทั่วไปการติดเชื้อหลังการผ่าตัดแปลงเพศมีโอกาสเกิดได้น้อยมาก ถ้าเกิดการติดเชื้อมักจะรุนแรง
ทำให้ ผลการผ่าตัดไม่ดีเท่าที่ควร เช่น ช่องคลอดตื้น แคมในมีขนาดเล็กลง โดยทั่วไปการติดเชื้อ จะต้องระวังในคนไข้เหล่านี้

1. ภาวะที่มีเซลล์เม็ดเลือดขาวต่ำ
2. คนที่เป็นเบาหวาน
3. คนที่ใช้ยากลุ่มที่กด ความต้านทานของร่างกายเช่น สเตียรอยด์

    ในบางครั้งการผ่าตัดอาจทะลุผ่านทวารหนักก็ทำให้มีโอกาสติดเชื้อได้มากถ้าเตรียมลำไส้ไม่ดีพอ การดูแลหลังผ่าตัดก็มีผลในการป้องกันการติดเชื้อเช่นกันได้แก่การระวังการปนเปื้อนของอุจจาระมาที่แผลโดยถ้าอุจจาระควรอุจจาระบนถาดรองอุจจาระหรือที่โถสุขภัณฑ์และทำความสะอาดโดยใช้กระดาษเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง ไม่ควรใช้น้ำฉีดหลังการถ่ายเพราะควบคุมทิศทางการฉีดน้ำได้ยาก อาจทำให้อุจจาระและน้ำกระจายมากเลอะแผลได้ ต้องดูแลสายระบาย เลือดและน้ำเหลืองอย่างดีอย่าให้อุดตัน เพราะจะทำให้เลือดคั่งในแผลผ่าตัดกลายเป็นก้อนเลือดภายในซึ่งเกิดการสะสมเชื้อและติดเชื้อได้ง่ายดังนั้นต้องการไม่ให้สายระบายน้ำเหลืองตันหรือหลุดออกจากขวด

    การแก้ไขถ้ามีการติดเชื้อหลังผ่าตัดต้องเปิดแผลเร็วกว่ากำหนดเพราะถ้ามีการติดเชื้อรุนแรงเนื้อเยื่อที่วางไว้ภายในก็มักจะตายหมด อย่างไรก็ตามจากที่กล่าวไว้ข้างต้น การติดเชื้อบริเวณนี้เกิดได้ค่อนข้างน้อยโอกาสที่เกิดปัญหานี้มีน้อย

    การผ่าตัดแปลงเพศ เป็นการผ่าตัดในท่าที่ต้องขึ้นขาหยั่ง ในบางครั้งถ้าการผ่าตัดนานมากเนื่องจากปัญหาใดก็ตาม อาจทำให้มีการกดกล้ามเนื้อที่ขาในบางตำแหน่งอาจทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณนั้นน้อยหรือมีการบอบช้ำของกล้ามเนื้อได้ การป้องกันอาจต้องมีการขยับขาถ้าใช้เวลาผ่าตัดนานมาก
หลังผ่าตัดมักมีอาการปวดกล้ามเนื้อบางที่ถูกกดหรือบางกรณีอาจมีการบวมของขาข้างนั้นมากกว่าปกติ สามารถขยับปลายนิ้วเท้าและข้อเท้าขึ้นลงได้มีอาการปวดเจ็บที่กล้ามเนื้อและคลำได้กล้ามเนื้อทรงตัว

    การรักษาทำโดยการนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อถ้าปวดมาก อาจใช้ยาคลายกล้ามเนื้อในบางครั้ง ให้ยาแก้ปวดกลุ่ม มอร์ฟีน ในรายที่มีอาการบวมมาก อาจต้องยกขาสูงโดยทั่วไป อาการปวดและบวมจะดีขึ้น ใน 2 - 3 วัน

    การขึ้นขาหยั่งนานอาจมีการกดเส้นประสาท ที่หลังหัวเข่าได้ ถ้าเป็นเส้นประสาทรับความรู้สึกก็จะทำให้เกิดอาการชา โดยทั่วไปเส้นประสาทจะถูกกดบางส่วน อาการชามีบ้างแต่ยังเหลือความรู้สึกอยู่ ปัญหาเรื่องชามักจะดีขึ้นเองในระยะเวลาประมาณ 3-7 วัน มีการกดเส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อ อาจทำให้กระดูกปลายเท้าหรือขยับนิ้วเท้าไม่ได้ ปัญหาเรื่องนี้มักพบไม่บ่อยแต่ถ้าเกิดกันมักใช้เวลารักษานานกว่าวิธีแรก โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ หรือเป็นเดือน ถ้าเกิดปัญหาจะเกิดกับมัดเล็กๆ ที่ปลายเท้าจะยังเดินได้ แต่การขยับข้องเท้า หรือนิ้วเท้าอาจทำได้ไม่ดีในระหว่างที่รอให้อาการดีขึ้น อาจต้องทำกายภาพอย่างต่อเนื่อง

    การขึ้นขาหยั่งนานไปการผ่าตัดแปลงเพศ จึงเป็นการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูง การเกิดก้อนเลือดแข็งตัวของเส้นเลือดดำ [ DEEP VEIN THROMBOSIS ] ได้สูงเนื่องจากระหว่างการผ่าตัดต้องทำในท่าที่ต้องขึ้นขาหยั่งนานมากๆโชคดีที่ภาวะเหล่านี้เกิดน้อยในคนไทยสำหรับปัจจัยเสี่ยงของการเกิด การอุดตันมีโอกาสเกิดใน คนไข้บางกลุ่ม คือ

1. ได้รับยาที่มีผลให้เลือดแข็งตัวได้ง่าย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ฮอร์โมนเพศหญิงโดยเฉพาะ
   เอสโตรเจน ดังนั้นจึงแนะนำให้หยุดฮอร์โมนเพศหญิง 1 เดือน หรือ 2 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด
    
2. ท่านอนในการผ่าตัดท่าที่ทำให้มีโอกาสเกิดการไหลเวียนของเส้นเลือดดำช้าได้แก่ การนั่งนานๆ ในเครื่องบิน , การผ่าตัดในท่าที่ต้องขึ้นขาหยั่งและอยู่ในท่านั้นนานๆทำให้เลือดดำหยุดการไหลเวียน
    
3. ระยะเวลาการผ่าตัดยังมีการขึ้นขาหยั่งนานมากมีโอกาสเสี่ยงมาก
    
4. เชื้อชาติและกรรมพันธุ์ การเกิดเส้นเลือดดำอุดตันพบมากในคนผิวขาวมากกว่ากับเอเชีย

    ภาวะเส้นเลือดดำอุดตันจะเกิดที่เส้นเลือดใหญ่ ถ้าเป็นน้อยจะทำให้ บวมแดง ถ้าการอุดตันลุกลามไป
ถึงเส้นเลือดแดง จำทำให้เลือดไหลเวียนไปที่ขาไม่ได้เกิดเส้นเลือดแดงอุดตันเลือดไปเลี้ยงที่ขาไม่ได้ ทำให้สูญเสียขาข้างนั้นๆได้อาการที่แสดงระยะแรกของเส้นเลือดดำอุดตันคือการที่กระดกข้อเท้าแล้วปวดมาก ในบางรายถ้าก้อนเลือดขนาดใหญ่ มีการหลุดขึ้นมาก็อาจเข้าไปอุดตันเส้นเลือดแดงในปอดได้

    การแก้ไขถ้าเกิดปัญหาแล้ว มักต้องใช้ยาสลายลิ่มเลือด มักยังเป็นยาฉีดและจะเปลี่ยนมาเป็นยากิน
ภายหลัง อาจต้องเจาะเลือดดูภาวะ การแข็งตัวเป็นครั้งคราว ต้องยกเท้าสูงในรายที่บวมมาก

    โดยทั่วไปเนื้อเยื่อบริเวณแคมนอกและแคมในได้มาจากผิวหนังที่ปลายอวัยวะเพศและถุงอัณฑะซึ่งเดิมจะแตกต่างกันอยู่แล้วในแต่ละข้างดังนั้น หลังจากแปลงเพศแล้วอาจมีการแตกต่างกัน ในเรื่องขนาดบ้าง ถ้าไม่มากก็มักไม่ต้องแก้ไข อนึ่งหลังการผ่าตัดอวัยวะที่บวมอยู่นาน คือแคมในทั้ง 2 ข้างและมักจะบวมไม่เท่ากัน การบวมในระยะแรกของแคมในอาจมีขนาดประมาณ 5 - 6 เท่า ของขนาดปกติ ดังนั้น ควรรอจนอาการยุบบวมยุบลงก่อนไม่ควรรีบร้อนแก้ไขโดยทั่วไปจะยุบวม 100% ประมาณ 2 - 3 เดือน หลังจากเวลานั้นจึงค่อยการตกแต่งใหม่ โดยทั่วไปบริเวณแคมในที่เราเห็นบวมใหญ่ต่างกันมากหลังจากยุบบวมจะแทบไม่เห็นความแตกต่างเลย

    เกิดในคนที่ช่องคลอดโดยการใช้ลำไส้ พบได้ทั้งที่ทำครั้งแรกหรือครั้งที่ 2 [ SECONDARY COLONVAGINOPLASTY ] เกิดจากรอยต่อของลำไส้ใหญ่และผิวหนังมีการหดรัด ทำให้เกิดรอยแคบตรงกลาง ทางเข้าสู่ส่วนที่เป็นลำไส้ใหญ่

    วิธีการแก้ไข โดยทั่วไป อาจดีขึ้นได้ถ้าแผลเป็นและพังพืดนิ่มลง อาจใช้การขยายช่องคลอดดูก่อนแต่ถ้าไม่สามารถขยายได้มาก มักต้องทำผ่าตัดโดยใช้เทคนิคศัลยกรรมตกแต่งขยายบริเวณแผลเป็นให้กว้างขึ้น

ย้อนกลับ

** ขอสงวนสิทธิ์ข้อมูลและรูปภาพในเวบไซค์นี้ ห้ามลอกเลียนและเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต